สำหรับบคนที่สมัครคณะอินเตอร์
และต้องเขียนต้องเขียนPersonal Statement
อย่างงว่ามันคืออะไร (ตอนแรกป้าก็เป็น - -)
เพราะใบสมัครของมหาลัยได้กำหนดscopeเนื้อหามาแล้ว
(ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดมา)
เราลองมาดูวิธีการเขียนกันดีกว่า
เพราะใบสมัครของมหาลัยได้กำหนดscopeเนื้อหามาแล้ว
(ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดมา)
เราลองมาดูวิธีการเขียนกันดีกว่า
อันดับแรกเลยคือเราต้องเขียนESSAYปกติให้เป็นก่อน
(สำหรับใครที่ไม่เคยเข้าไปที่ลิงค์นี้เลยจ้า CLICK)
ต่อมาก็มาดูการเขียนPersonal Statement หรือ Statement of Purpose
มาดูความหมายกันนะคะ Personal = ส่วนตัว Statement = ข้อความ Purpose = จุดประสงค์
ดังนั้นความหมายโดยรวมก็คือ ข้อความส่วนที่บอกถึงจุดประสงค์ต่างๆ ในที่นี้ป้าขอเอาเป็นมหาลัยนะคะ
Personal Statementนี้สาคัญมาก คือ ถ้าเค้าอ่านนะ จะเป็นจุดตัดเลยว่ารับเรารึเปล่า
นี่คือสิ่งที่เราต้องรู้/ทำก่อน
1. คณะที่คุณเลือก - ทำไมคุณถึงเลือกคณะนี้
2. อ่านตัวอย่างpersonal statementของคนอื่น - จะช่วยเพิ่มไอเดียการเขียนให้กับเราอย่างมากตัวอย่าง
3. จุดประสงค์ของการเขียน - เราต้องการจะบอกอะไรเค้า อะไรที่ควรใส่ลงไปแล้วเค้าจะเลือกในทันที
4. ภาษาของการเขียน - จะทำอย่างไรให้งานเขียนของเราอ่านสบาย (คือเราควรเขียนให้ปะติดปะต่อกัน ไม่ต้องใช้ศัพท์เวอร์ เอาพอเข้าใจ)
5. โครงสร้างของงานเขียนของเรา - เราจะจัดรูปแบบอย่างไรให้น่าอ่าน/น่าสนใจ
6. คุณต้องทำอย่างไรหลังเขียนแบบร่างเสร็จแล้ว
7. จะปรับปรุงแบบร่างให้น่าอ่านได้อย่างไร
(ข้อ6และ7สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในหัวข้อการเขียนESSAY)
เอาล่ะ มาเริ่มเลย มาดูคำถามที่คุณควรตอบตัวเองให้ได้ก่อน คำถามพวกนี้สามารถเอาไปแทรกๆระหว่างเนื้อหาหลักได้
เนื้อหาหลักก็คือสิ่งที่เขาต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่ทางม.ได้บอกมาไว้แล้ว(ถ้าไม่ได้บอกมาสามารถเอาหัวข้อพวกนี้ไปใช้ได้)
Ex.
Study Plan & Career Goals
Why do you want to attend...?
what do you hope to accomplish from your education?
จะเป็นประมาณนี้ ส่วนเนื้อหารองจะเป็นพวกประวัติการศึกษา รางวัล หรือคำตอบของคำถามข้างล่างนี้
1. Why do I want to study it? - อันนี้สาคัญ ค้นให้ได้ว่าทำไม
2. What personal qualities, interests and experience do I have which show I am suited to study this subject at university? อันนี้ช่วยเพิ่มคะแนน แบบ บอกไปว่าคุณชอบเรียนวิชานี้ อย่างนั้นอย่างโน้น เคยทำงานแบบนั้น ได้รางวัลโน้นมา แล้วอย่าลืม อย่าพูดลอยๆ
-ถ้าบอกว่าชอบ ให้ใส่เหตุผล
-ถ้าบอกว่าเคยประกวด/ทาโครงงาน/เข้าค่าย ให้ใส่ชื่องานหรือสถานที่ให้ดูหนักแน่น แถมช่วยเพิ่มจน.คำอีกแนะ55555
3. What are my other interests and skills? ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ถ้าเป็นป้าจะใส่skillที่เรายังทำได้ไม่ดีพอ และอยากเรียนรู้เพิ่ม...ประมาณนั้น
2. What personal qualities, interests and experience do I have which show I am suited to study this subject at university? อันนี้ช่วยเพิ่มคะแนน แบบ บอกไปว่าคุณชอบเรียนวิชานี้ อย่างนั้นอย่างโน้น เคยทำงานแบบนั้น ได้รางวัลโน้นมา แล้วอย่าลืม อย่าพูดลอยๆ
-ถ้าบอกว่าชอบ ให้ใส่เหตุผล
-ถ้าบอกว่าเคยประกวด/ทาโครงงาน/เข้าค่าย ให้ใส่ชื่องานหรือสถานที่ให้ดูหนักแน่น แถมช่วยเพิ่มจน.คำอีกแนะ55555
3. What are my other interests and skills? ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ถ้าเป็นป้าจะใส่skillที่เรายังทำได้ไม่ดีพอ และอยากเรียนรู้เพิ่ม...ประมาณนั้น
ขั้นตอนต่อไปเขียนoutline
Outlineคือไม่ต้องมาเป็นประโยคก็ได้นะ เอาเป็นคำหรือวลีที่พอดูแล้ว…อ้อ วรรคนี้ฉันจะเขียนเรื่องนี้..ย่อหน้านั้นฉันจะพูดเรื่องนั้น...
A. Intro
- ก็บอกพวกข้อ1.why do I ….(อันนี้จะช่วยจับคนอ่านเพราะเค้าอยากรู้แน่ๆ)กับ Study Plan & Career Goals เกริ่นๆไว้ก่อน
- ช่วงนี้แทรกตรงส่วนข้อ2what personal qualities… ได้แบบเกริ่นๆ เช่น After Under graduation, Iwant to study graduated program and work aboard.เห็นมะ ครอบคลุมดี
- ก็บอกพวกข้อ1.why do I ….(อันนี้จะช่วยจับคนอ่านเพราะเค้าอยากรู้แน่ๆ)กับ Study Plan & Career Goals เกริ่นๆไว้ก่อน
- ช่วงนี้แทรกตรงส่วนข้อ2what personal qualities… ได้แบบเกริ่นๆ เช่น After Under graduation, Iwant to study graduated program and work aboard.เห็นมะ ครอบคลุมดี
B. Body
ก็ง่ายๆเลย เป็นป้าจะแบ่งเป็น2ParagraphsหรือจะParagraphเดียวก็ได้ ตามความสะดวก
1- หัวข้อหลักที่เขาต้องการ
2- ข้อ2 what personal qualities…กับ3what are my…ได้แบบเต็มๆ มีไรก็จัดไป อย่าลืมต้องอ้างอิงด้วย แบบบอกว่าเราเคยทำหนังสือรุ่นให้โรงเรียน ก็ใส่ไปด้วยว่ารุ่นไหนทำส่วนไหน และอย่าใส่เยอะเกินจะดูโอ้อวดเกินไป
ก็ง่ายๆเลย เป็นป้าจะแบ่งเป็น2ParagraphsหรือจะParagraphเดียวก็ได้ ตามความสะดวก
1- หัวข้อหลักที่เขาต้องการ
2- ข้อ2 what personal qualities…กับ3what are my…ได้แบบเต็มๆ มีไรก็จัดไป อย่าลืมต้องอ้างอิงด้วย แบบบอกว่าเราเคยทำหนังสือรุ่นให้โรงเรียน ก็ใส่ไปด้วยว่ารุ่นไหนทำส่วนไหน และอย่าใส่เยอะเกินจะดูโอ้อวดเกินไป
C. Conclusion
สรุปจากBodyเลย การสรุปนี้จะมีส่วนคล้ายๆIntroductionค่ะ
สรุปจากBodyเลย การสรุปนี้จะมีส่วนคล้ายๆIntroductionค่ะ
พอได้outlineแล้วก็เริ่มเขียนกันเถอะ
พอมีoutlineแล้วง่ายมากกกกค่ะ แค่แต่งประโยคตามoutlineที่แกจะสื่อ แล้วเอามาเรียงๆให้เป็นParagraph ถ้าจะยากก็แค่เลือกสรรคาเท่านั้น วะฮ่ะฮ่า
พอมีoutlineแล้วง่ายมากกกกค่ะ แค่แต่งประโยคตามoutlineที่แกจะสื่อ แล้วเอามาเรียงๆให้เป็นParagraph ถ้าจะยากก็แค่เลือกสรรคาเท่านั้น วะฮ่ะฮ่า
ระวัง!!
- ประโยคแรกของทุกย่อหน้าสาคัญสุดex. I have had a considerable interest in ….
- ตัดปยที่ไม่เกี่ยวออกไป จำไว้ว่าทุกปย.ต้องผ่านคำถาม”แล้วไง?”
- มั่นใจในตัวเอง คิดบวกฮ่ะ ประโยคที่เป็นnegativeลบซะ
- เขียนแกรมม่าให้ถูก ส่วนใหญ่tenseจะเป็นpresent simp, past simp, future simp ง่ายเนาะ
- เขียนให้ดูค่อนข้างทางการ
- ไม่ต้องเขียนอลังการงานสร้างหรือใช้ศัพท์ยาก เอาที่เราเข้าในว่าแท้จริงมันหมายความว่าอะไร
- เขียนให้ดูน่าสนใจในParagraphแรก เพราะมันจะจับคนอ่านให้อ่านต่อจนจบ
ขั้นตอนสุดท้ายไม่ยาก แต่ใช้เวลานาน ถ้าเรามีเวลาควรแต่งไว้ก่อนกำหนดส่งสักสองเดือน และสวมบทบาทนักพิสูจน์อักษรและลุยเลยค่ะ อ่านทุกประโยคทุกบรรทัด อันไหนไม่ดีก็ปรับปรุง ไม่มั่นใจตรงไหนถามอาจารย์ภาษาอังกฤษที่โรงเรียนได้เลย ป้าเชื่อว่าอาจารย์ยินดีตอบค่ะ
พอจะส่งก็พิมพ์แล้วก็ปริ้นออกมาได้เลยจ้า อย่าลืมเซ็นชื่อและวันที่เขียนกำกับด้วยนะ
ป้าขอให้หลานๆโชคดี(^^)V
Thank you for these links :
http://www.studential.com/guide/write_personal_statement.htm
http://www.thestudentroom.co.uk/wiki/Writing_Your_Personal_Statement
http://alumnus.caltech.edu/~natalia/studyinus/guide/statement/link4.htm
อยากรู้ว่าเราแค่เขียนเนื้อความอย่างเดียวรึเปล่าคะหรือต้องมีขึ้นต้น(dear, subject....) กับลงท้าย(your sincerely...) อ่ะค่ะ
ReplyDeleteเขียนค่ะ เพราะมันก็เป็นจนหนายรูปแบบหนึ่ง ควรบอกว่าถึงใคร แล้วแสดงความเคารพตอนจบด้วยค่ะ
Delete