Sep 27, 2013

การเขียนESSAY

การเขียนEssayนั้นจะว่าง่ายก็ใช่นะคะ แต่ถ้าจะเขียนให้ดีนั้นยากค่ะ
ดังนั้นเรามาลองเรียนรู้วีธีเขียนกันนะคะ



การเขียน essayนั้นก็เหมือนกับการเขียนเรียงความนั่นล่ะค่ะ คือหลักๆมี 3 ย่อหน้า คำนำ เนื้อหา และสรุป เหมือนที่เรียนมาตอนประถมเลยใช่ไหม แต่พอมาเป็นภาษาอังกฤษแล้วมันดูย้ากยาก นั่นเป็นเพราะเราไม่ชินกับภาาามากกว่า เอาล่ะ เราลองมาดูการเขียนในแต่ละส่วนกันค่ะ


A. Introduction and thesis statement (ส่วนแรกก็คือคำนำ เป็นส่วนมี่จะใ่ส่ใจความหลักลงไปหรือที่เราเรียกกันว่าThesis Statement)

1. ก่อนจะเขียน เราต้องมีใจความหลักแค่ประโยคเดียว ซึ่งประโยคนี้จะบอกหมดเลยว่าเราพุ่งประเด็นไปที่เรื่องอะไร ต้องเจาะจงพอสมควร


2. ประโยคแรกของย่อหน้านี้สำคัญมากเพราะมันเป็นตัวเรียกความสนใจจากผู้อ่านเลยล่ะ ถ้าประโยคแรกไม่น่าสนใจก็จบค่ะ อ่านไปย่อหน้าเดียวแล้วเลิกเลยนะ^^;

3. ย่อหน้านี้ก็สำคัญเช่นกัน นั่นคือ มันก็ช่วยจับความสนใจของผู้อ่านมาอยู่ตรงหน้ากระดาษนี้ และดึงดูดให้เขาอ่านให้จบ

B. The body of the paper (ต่อมาก็จะเป็นส่วนเนื้อหาซึ่งจะมีกี่ย่อหน้าก็ได้)

1. ในแต่ย่อหน้าควรมีใจความหลักเพียงหนึ่งเดียว และใจความนี้ต้องเอ่ยถึงมาแล้วในThesis Statementของทั้งกระดาษ เพราะถ้ามีหลายใจความคนอ่านจะงง ถ้าใจความนั้นแบ่งเป็นส่วนย่อยๆ ก็สามารถตัดมาเป็นย่อหน้าใหม่ได้เลย

2. เวลาเล่าอะไรต้องมีตัวสนับสนุนที่ดูน่าเชื่อถือ เช่น ถ้าเราพูดถึงการท่องเที่ยวในประเทศไทยมีการเจริญเติบโตที่สูงมาก เราก็ควรใส่ข้อมูลว่า เติบโตเท่าไหร่ กี่เปอร์เซนต์ โดยอ้างอิงจากเว็บไซต์อะไรก็ว่าไป

3. ควรเล่าเรื่องอย่างสม่ำเสมอ และเป็นเหตุเป็นผลกัน คือไม่มีประโยคที่ขัดแย้งกับใจความหลัก จะทำให้การอ่านลื่นไหลมากขึ้น และควรจะเชื่อมประโยคบ้าง ไม่ใช่มีแต่ประโยคสั้นๆเต็มไปหมด การใส่ตัวเชื่อมประโยคจะทำให้การอ่านดูน่าสนใจมากขึ้น เช่น I love playing football. I love reading novels. เปลี่ยนเป็น In my freetime, I love playing football and reading novels.



C. Conclusion (สรุปล้วนๆ)

ง่ายๆเลยคือเอาThesis statementมาเขียนใหม่ โดยใส่ข้อสนับสนุนเพิ่มเติม พอจะสรุปก็ควรใส่ข้อคิดหรืออะไรให้ผู้อ่านกลับไปคิดก็จะดี 




เท่านี้ก็ดีแล้วค่ะ

Thanks : http://alumnus.caltech.edu/~natalia/studyinus/guide/statement/link4.htm

No comments:

Post a Comment